โรคหัวใจ โรคหัวใจมีกี่ชนิด?โรคหัวใจ (Heart Disease) เป็นคำกว้าง ๆ ที่ใช้เรียกกลุ่มของภาวะหรือโรคที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างและการทำงานของหัวใจ โดยสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ที่สำคัญได้ประมาณ 5-6 ชนิดหลัก ดังนี้ครับ:
การแบ่งประเภทหลักของโรคหัวใจ
1. โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease - CAD)
เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดและเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต
ลักษณะ: หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจเกิดการตีบหรืออุดตันจากการสะสมของไขมัน (คราบพลัค) ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ
ตัวอย่างภาวะ:
โรคหัวใจขาดเลือด (Ischemic Heart Disease)
กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Heart Attack)
2. โรคกล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiomyopathy)
เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจโดยตรง ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลักษณะ: กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอลง ขยายตัวผิดปกติ หนาตัวผิดปกติ หรือแข็งตัวผิดปกติ
ตัวอย่างภาวะ:
กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงและขยายตัว (Dilated Cardiomyopathy)
กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวผิดปกติ (Hypertrophic Cardiomyopathy)
กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis)
3. ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Cardiac Arrhythmia)
เป็นความผิดปกติของระบบไฟฟ้าในหัวใจ ซึ่งควบคุมจังหวะการเต้น
ลักษณะ: หัวใจเต้นช้าเกินไป, เร็วเกินไป, หรือเต้นไม่สม่ำเสมอ
ตัวอย่างภาวะ:
ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (Atrial Fibrillation - AF)
หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ (Tachycardia)
หัวใจเต้นช้าผิดปกติ (Bradycardia)
4. โรคลิ้นหัวใจ (Valvular Heart Disease)
เป็นความผิดปกติของลิ้นหัวใจทั้ง 4 ลิ้น ที่ทำหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนของเลือดในห้องหัวใจ
ลักษณะ: ลิ้นหัวใจมีการ ตีบ (เปิดไม่สุด เลือดไหลผ่านยาก) หรือ รั่ว (ปิดไม่สนิท เลือดไหลย้อนกลับ)
สาเหตุ: อาจเกิดจากความเสื่อมตามอายุ, การติดเชื้อ (เช่น ไข้รูมาติก), หรือความพิการแต่กำเนิด
5. โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (Congenital Heart Disease - CHD)
เป็นความผิดปกติของโครงสร้างหัวใจที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในครรภ์
ลักษณะ: หัวใจมีรูปร่างผิดปกติ โครงสร้างของผนังห้องหัวใจหรือลิ้นหัวใจผิดปกติ
ตัวอย่างภาวะ:
หัวใจมีรูรั่ว (เช่น รูรั่วที่ผนังกั้นหัวใจห้องบน/ล่าง)
ความผิดปกติของหลอดเลือดที่ออกจากหัวใจแต่กำเนิด
6. ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure)
แม้จะไม่ใช่ตัวโรคโดยตรง แต่เป็น ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง และเป็นปลายทางของโรคหัวใจหลายชนิด
ลักษณะ: หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยง่าย ขาบวม และนอนราบไม่ได้